“แก๋งแค” หรือ “แก๋งผักแค” เป็นแกงที่รวมเอาผักชนิดต่าง ๆ เท่าที่หาได้ในท้องถิ่น มากบ้างน้อยบ้างอย่างละเล็กละน้อย มาปรุงเป็นกับข้าวให้มีรสชาติที่อร่อยสุด ๆ (สำหรับท่านที่ชอบผัก) “ผักแค” จึงเป็นชื่อเรียกโดยรวมของผักชนิดต่าง ๆ ที่เอามาแกง ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นผักชนิดใดชนิดหนึ่ง
“แก๋งแค” สามารถแกงได้กับเนื้อสัตว์เกือบจะทุกชนิด เช่น ไก่ หมู วัว ควาย เนื้อเค็ม และสัตว์น้ำก็ปลาทุกชนิด หรือ กบ เขียด เป็นต้น ซึ่ง “แก๋งแค” สามารถแกงได้ทั้งแบบน้ำข้น (ใส่ข้าวคั่ว) และแกงแบบธรรมดาน้ำใส (ไม่ใส่ข้าวคั่ว)
เกือบทุกตลาดในจังหวัดทางภาคเหนือ จะมี “ผักแค” วางขายเป็นมัด ๆ ซึ่งจะมีผักเกือบทุกชนิดที่จะใช้แกงคละกันอยู่ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ไม่ต้องไปเดินหาซื้อผักแต่ละอย่างให้เสียเวลา
เครื่องปรุง “แก๋งแค”
ผักแคชนิดต่าง ๆ เช่น ผักตำลึง ผักเผ็ด ผักขี้หูด ถั่วฝักยาว ถั่วพู ถั่วแปบ ดอกแค ดอกงิ้ว เห็ดลม เห็ดนางฟ้า ใบชะพลู ผักชีฝรั่ง ยอดฟักทอง ผักชะอม มะเขือเปราะ มะเขือพวง หน่อไม้ หรือผักอื่น ๆ เท่าที่มีหรือพอหาได้ในท้องถิ่นมากบ้างน้อยบ้างคละกันไป เนื้อสัตว์ทุกชนิดตามใจชอบ พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด หัวหอม 5 หัว กระเทียม 2 หัว ตะไคร้ 2 ต้น ข่า 5 แว่น เม็ดผักชีแห้ง 1 ช้อนชา มะแขว่น 1 ช้อนชา กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ และข้าวคั่ว 1-2 ทัพพี
วิธีปรุง “แก๋งแค”
เริ่มต้นด้วยการ “เด็ด” ผักแคชนิดต่าง ๆ เช่น ผักตำลึง ผักเผ็ด ผักขี้หูด ถั่วฝักยาว ถั่วพู ถั่วแปบ ดอกแค ดอกงิ้ว เห็ดลม เห็ดนางฟ้า ใบชะพลู ผักชีฝรั่ง ยอดฟักทอง ผักชะอม มะเขือเปราะผ่าสี่ มะเขือพวง หน่อไม้ หรือผักอื่น ๆ เท่าที่มี หรือพอหาได้ในท้องถิ่นมากบ้างน้อยบ้างคละกันไป รวมกันแล้วล้างให้สะอาด เตรียมไว้
เนื้อสัตว์ (ตามใจชอบ) หั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ เตรียมไว้
เอาพริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด (แช่น้ำจนนิ่ม บีบให้แห้ง) หัวหอม 5 หัว กระเทียม 2 หัว ตะไคร้หั่นฝอย 2 ต้น ข่า 5 แว่น เม็ดผักชีแห้ง 1 ช้อนชา มะแขว่น 1 ช้อนชา กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น ใส่ครก ตำให้ละเอียดจนเข้ากันดี
กระทะใส่น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ ยกตั้งไฟ พอร้อนตักน้ำพริกในครกลงไปผัดจนหอมได้ที่ดี จึงใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปผัดด้วย ขณะผัดเติมน้ำล้างครกลงไปด้วย เคี่ยวจนน้ำแห้งจะมีกลิ่นหอมฉุย แล้วตักทั้งหมดใส่หม้อแกง เติมน้ำพอท่วมขลุกขลิก (อย่าใส่น้ำมาก แกงจะกร่อย)
ยกหม้อแกงตั้งบนไฟอ่อน ๆ จนน้ำแกงเดือด เคี่ยวต่อไปสักพัก คะเนว่าเนื้อสัตว์เปื่อยพอสมควร ก็ใส่ผักแคที่เตรียมไว้ลงไป ปิดฝาหม้อ พอเดือดอีกครั้งก็ยกลงจากเตารีบเปิดฝาหม้อแกงทันที ผักจะเขียวสดน่ารับประทาน ที่สำคัญอย่าลืมปรุงรสด้วยน้ำปลาและรสดีด้วยล่ะ
ถ้าหากชอบแบบน้ำข้น ก่อนยกลงจากเตาให้ใส่ข้าวคั่วลงไปสัก 1-2 ทัพพี แล้วคนให้เข้ากันตักรับประทานขณะร้อน ๆ แกงจะอร่อยได้รสได้ชาติจริง ๆ
“แก๋งแค” สามารถแกงได้กับเนื้อสัตว์เกือบจะทุกชนิด เช่น ไก่ หมู วัว ควาย เนื้อเค็ม และสัตว์น้ำก็ปลาทุกชนิด หรือ กบ เขียด เป็นต้น ซึ่ง “แก๋งแค” สามารถแกงได้ทั้งแบบน้ำข้น (ใส่ข้าวคั่ว) และแกงแบบธรรมดาน้ำใส (ไม่ใส่ข้าวคั่ว)
เกือบทุกตลาดในจังหวัดทางภาคเหนือ จะมี “ผักแค” วางขายเป็นมัด ๆ ซึ่งจะมีผักเกือบทุกชนิดที่จะใช้แกงคละกันอยู่ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ไม่ต้องไปเดินหาซื้อผักแต่ละอย่างให้เสียเวลา
เครื่องปรุง “แก๋งแค”
ผักแคชนิดต่าง ๆ เช่น ผักตำลึง ผักเผ็ด ผักขี้หูด ถั่วฝักยาว ถั่วพู ถั่วแปบ ดอกแค ดอกงิ้ว เห็ดลม เห็ดนางฟ้า ใบชะพลู ผักชีฝรั่ง ยอดฟักทอง ผักชะอม มะเขือเปราะ มะเขือพวง หน่อไม้ หรือผักอื่น ๆ เท่าที่มีหรือพอหาได้ในท้องถิ่นมากบ้างน้อยบ้างคละกันไป เนื้อสัตว์ทุกชนิดตามใจชอบ พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด หัวหอม 5 หัว กระเทียม 2 หัว ตะไคร้ 2 ต้น ข่า 5 แว่น เม็ดผักชีแห้ง 1 ช้อนชา มะแขว่น 1 ช้อนชา กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ และข้าวคั่ว 1-2 ทัพพี
วิธีปรุง “แก๋งแค”
เริ่มต้นด้วยการ “เด็ด” ผักแคชนิดต่าง ๆ เช่น ผักตำลึง ผักเผ็ด ผักขี้หูด ถั่วฝักยาว ถั่วพู ถั่วแปบ ดอกแค ดอกงิ้ว เห็ดลม เห็ดนางฟ้า ใบชะพลู ผักชีฝรั่ง ยอดฟักทอง ผักชะอม มะเขือเปราะผ่าสี่ มะเขือพวง หน่อไม้ หรือผักอื่น ๆ เท่าที่มี หรือพอหาได้ในท้องถิ่นมากบ้างน้อยบ้างคละกันไป รวมกันแล้วล้างให้สะอาด เตรียมไว้
เนื้อสัตว์ (ตามใจชอบ) หั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ เตรียมไว้
เอาพริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด (แช่น้ำจนนิ่ม บีบให้แห้ง) หัวหอม 5 หัว กระเทียม 2 หัว ตะไคร้หั่นฝอย 2 ต้น ข่า 5 แว่น เม็ดผักชีแห้ง 1 ช้อนชา มะแขว่น 1 ช้อนชา กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น ใส่ครก ตำให้ละเอียดจนเข้ากันดี
กระทะใส่น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ ยกตั้งไฟ พอร้อนตักน้ำพริกในครกลงไปผัดจนหอมได้ที่ดี จึงใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปผัดด้วย ขณะผัดเติมน้ำล้างครกลงไปด้วย เคี่ยวจนน้ำแห้งจะมีกลิ่นหอมฉุย แล้วตักทั้งหมดใส่หม้อแกง เติมน้ำพอท่วมขลุกขลิก (อย่าใส่น้ำมาก แกงจะกร่อย)
ยกหม้อแกงตั้งบนไฟอ่อน ๆ จนน้ำแกงเดือด เคี่ยวต่อไปสักพัก คะเนว่าเนื้อสัตว์เปื่อยพอสมควร ก็ใส่ผักแคที่เตรียมไว้ลงไป ปิดฝาหม้อ พอเดือดอีกครั้งก็ยกลงจากเตารีบเปิดฝาหม้อแกงทันที ผักจะเขียวสดน่ารับประทาน ที่สำคัญอย่าลืมปรุงรสด้วยน้ำปลาและรสดีด้วยล่ะ
ถ้าหากชอบแบบน้ำข้น ก่อนยกลงจากเตาให้ใส่ข้าวคั่วลงไปสัก 1-2 ทัพพี แล้วคนให้เข้ากันตักรับประทานขณะร้อน ๆ แกงจะอร่อยได้รสได้ชาติจริง ๆ