ยินดีต้อนรับทุกๆท่าน Welcome to...



วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

006 น้ำพริกอ่อง, น้ำพริกเห็ด

กับข้าวที่จะขาดไม่ได้บน “ขันโตก” (สำรับใส่อาหารของชาวเหนือ) นอกเหนือจาก “แก๋งฮังเล” แล้ว “น้ำพริกอ่อง” ก็จัดว่าเป็นกับข้าวที่วางเคียงคู่กันมา ส่วนผสมที่ช่วยชูรส “น้ำพริกอ่อง” ซึ่งจะขาดไม่ได้คือ “มะเขือส้ม” หรือ “มะเขือเทศสีดา” หรือ “มะเขือเทศผลใหญ่” เพราะนอกจากจะให้รสเปรี้ยวกำลังดีแล้ว ยังให้รสหวานตามธรรมชาติ และวิตามิน เอ. อีกด้วย

เมื่อสมัยเด็ก ๆ ผมเคยนั่งขายมะเขือเทศใน “กาดหมั้ว” มาแล้ว มะเขือเทศเอามาจากแปลงที่คุณแม่เป็นผู้ยกร่อง ปรับหน้าดิน และลงมือปลูกเอง (ส่วนผมรับอาสาเป็นคนรดน้ำทุก ๆ เช้า) บนเนื้อที่สี่คูณสี่เมตร ซึ่งเคยเป็นโรงวัวเก่าหน้าบ้าน หลังจากได้รื้อและย้ายไปปลูกใหม่หลังบ้านแทน

เพียงไม่กี่สัปดาห์ภายหลังจากปลูก ต้นมะเขือเทศของคุณแม่ก็โตวันโตคืน ออกลูกออกหลานดกมากมาย สุกแดงคาต้นจนเก็บกินไม่ทัน คงเพราะปุ๋ยคอก (ขี้วัว) ที่ทับถมมานานในดินที่ยกเป็นแปลงปลูกนั่นเอง คุณแม่เก็บแต่ละครั้งได้มะเขือเทศเป็นกระบุงใหญ่ ๆ ผมจึงอาสาเอาไปขายที่ตลาด ขายกองโต ๆ กองละสลึง วางขายประเดี๋ยวเดียวก็หมดกระบุง ได้เงินเป็นค่าขนมหลายสตางค์

เจ้ามะเขือเทศนี่มีประโยชน์มากหลาย นอกจากจะจิ้มเกลือกินสด ๆ ได้รสอร่อยแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผุดผ่องมีน้ำมีนวลอีกด้วย

เครื่องปรุง “น้ำพริกอ่อง”

หมูสับ 2 ขีด มะเขือเทศสีดา 30 ลูก พริกแห้ง 6-7 เม็ดหรือพริกขี้หนูแห้ง1 กำมือ หัวหอม 5 หัว กระเทียม 3 หัว ตะไคร้ 2 ต้น ข่า 5 แว่น รากผักชี 4-5 ราก กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ กระเทียมเจียว ต้นหอม-ผักชี ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว และแตงกวา ตามใจชอบ

วิธีปรุง “น้ำพริกอ่อง”

เอาพริกแห้ง 6-7 เม็ดหรือพริกขี้หนูแห้ง 1 กำมือ (แช่น้ำจนนิ่ม บีบให้แห้ง) หัวหอม 5 หัว กระเทียม 3 หัว ตะไคร้หั่นฝอย 2 ต้น ข่า 5 แว่น รากผักชี 4-5 ราก กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่นนิดหน่อย ใส่ครกลงสากตำให้ละเอียดจนได้ที่ ใส่หมูสับ 2 ขีด มะเขือเทศสีดา 30 ลูกผ่าสี่ ลงในครก ใช้สากบดในครก (ห้ามตำ) จนน้ำพริก-หมูสับ-มะเขือเทศผสมเข้ากันดี

กระทะใส่น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ ยกตั้งไฟอ่อน ๆ พอร้อนตักน้ำพริกในครกลงไปผัด จนกระทั่งน้ำแห้งมีกลิ่นหอมฉุยเตะจมูก ใส่รสดี 1 ช้อนโต๊ะ ปรุงรสด้วยน้ำปลา อย่าใส่น้ำตาล เพราะหวานธรรมชาติจากมะเขือเทศอยู่แล้ว (ขณะผัดน้ำพริกเติมน้ำล้างครกลงไปผัดด้วยครั้งละ 1-2 ทัพพี เคี่ยวจนน้ำแห้งจะมีน้ำมันออกมาแทน)

พอเสร็จ ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอม-ผักชีหั่นฝอย รับประทานแกล้มกับผักสด เช่น ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว ผักชี และแตงกวา เป็นต้น



น้ำพริกเห็ด